ห้องครัวเปรียบเสมือนหัวใจของบ้าน และถือเป็นขุมทรัพย์แห่งความอุดมสมบูรณ์ในศาสตร์ ฮวงจุ้ย (Feng Shui) โบราณ เนื่องจากเป็นสถานที่ที่เราใช้ปรุงอาหารเพื่อหล่อเลี้ยงชีวิตและสุขภาพของทุกคนในครอบครัว พลังงานในห้องครัวจึงส่งผลโดยตรงต่อโชคลาภ สถานะทางการเงิน ความสัมพันธ์ และความเป็นอยู่ที่ดีของผู้อยู่อาศัยทั้งหมด
การทำความเข้าใจและการจัดวาง "ครัวไฟ" ให้ถูกต้องตามหลัก ฮวงจุ้ย จึงมิใช่เพียงเรื่องของความเชื่อ แต่คือการสร้างสมดุลของพลังงานธาตุ โดยเฉพาะธาตุไฟ (เตา) และธาตุน้ำ (อ่างล้างจาน/ตู้เย็น) เพื่อให้เกิดการไหลเวียนของ พลังงานชี่ (Qi) ที่ดี ซึ่งจะนำมาซึ่งความมั่งคั่งและความผาสุกอย่างยั่งยืน
ตำแหน่งของห้องครัวภายในผังบ้านถือเป็นปัจจัยเริ่มต้นที่สำคัญที่สุดตามหลัก ฮวงจุ้ย โบราณ และยังคงใช้ได้ผลดีในบ้านยุคใหม่
ตามหลัก ฮวงจุ้ย ห้องครัวไม่ควรอยู่บริเวณทางเข้าหลักของบ้าน (ประตูหน้าบ้าน) หรืออยู่ในตำแหน่งที่คนภายนอกสามารถมองเห็นเตาไฟได้ง่าย เนื่องจากห้องครัวเปรียบเสมือนคลังสมบัติ การที่คนนอกมองเห็นได้ง่ายเชื่อว่าจะทำให้เงินทองรั่วไหล มีเหตุให้ต้องใช้จ่ายอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น การจัดวางไว้ที่ ด้านหลังบ้าน จึงถือเป็นตำแหน่งที่ดีที่สุด เพื่อเป็นการเก็บกักความร่ำรวยและอุดมสมบูรณ์เอาไว้
โดยทั่วไป ทิศที่เหมาะสำหรับห้องครัวคือ ทิศใต้ และ ทิศตะวันตกเฉียงใต้ เนื่องจากเป็นทิศที่สัมพันธ์กับธาตุไฟ ซึ่งสอดคล้องกับลักษณะการใช้งานของห้องครัว แต่สิ่งที่สำคัญกว่าทิศทางของห้องครัว คือทิศทางของเตาไฟ (จะกล่าวในส่วนถัดไป) และการจัดวางให้ถูกสุขลักษณะ
ไม่ควรอยู่ติดหรือตรงกับห้องน้ำ/ห้องนอน: ห้องครัวไม่ควรตั้งอยู่ติดกับห้องน้ำ (โดยเฉพาะผนังด้านหลังเตา) หรือตรงกับประตูห้องน้ำ เพราะพลังงานสกปรกจากห้องน้ำ (ธาตุน้ำ) จะมาพิฆาตและทำลายธาตุไฟของครัว ทำให้สุขภาพและโชคลาภเสียหาย รวมถึงไม่ควรตั้งอยู่ติดกับห้องนอน เพราะความร้อนและกลิ่นจะรบกวนการพักผ่อน
ไม่ควรอยู่ใต้คาน: การวางห้องครัวหรือเตาไฟไว้ใต้คาน (Beam) ในทาง ฮวงจุ้ย เชื่อว่าจะทำให้พลังงานถูกกดทับ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัย โดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับลำคอ จมูก หรือดวงตา
เตาไฟ (Stove) คือสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์และแหล่งพลังงานหลักของครอบครัวในศาสตร์ ฮวงจุ้ย การจัดวางเตาไฟให้ถูกต้องจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสถานะทางการเงินและสุขภาพ
ติดผนังทึบ: เตาไฟควรวางพิงกับผนังทึบที่แข็งแรงมั่นคง เนื่องจากจะช่วยเสริมความมั่นคงและเสถียรภาพทางการเงินของครอบครัว
หลีกเลี่ยงการวางกลางห้อง: ไม่ควรวางเตาไฟไว้กลางห้องครัวแบบลอยตัว (Island kitchen ที่มีเตาอยู่ตรงกลาง) เพราะไม่มีกำแพงรองรับ เชื่อว่าจะทำให้พลังงานกระจัดกระจาย และการทำอาหารที่ไม่มีฉากหลังจะทำให้ผู้ปรุงรู้สึกไม่มั่นคง (ขาดการสนับสนุน)
ทิศทางของหน้าเตาไฟ (ที่ผู้ปรุงยืนหันหน้าเข้าหา) ควรหันไปในทิศมงคลของ เจ้าของบ้าน หรือผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจสูงสุดในบ้าน (มักเป็นสามีหรือภรรยา) ตามหลักรหัสราศีและทิศทางส่วนบุคคล (เป็นหลักการที่ต้องใช้การคำนวณซับซ้อน)
อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไป ทิศที่นิยมและถือว่าดีคือ ทิศตะวันออก หรือ ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นทิศที่สัมพันธ์กับการเติบโตและธาตุไม้ (ธาตุไม้เสริมธาตุไฟ)
ไม่ตั้งตรงกับประตูหลักของบ้าน: ห้ามตั้งเตาไฟตรงกับประตูหลักของบ้าน เพราะคนนอกจะมองเห็นได้ และเชื่อว่าจะทำให้เก็บเงินทองไม่อยู่
ไม่ตั้งตรงกับประตูห้องครัว/หลังบ้าน: การวางเตาไฟตรงกับประตูห้องครัวหรือประตูหลังบ้านจะทำให้ พลังงานชี่ ดี ๆ ถูกเผาผลาญ และอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ควรตั้งให้เยื้องกับประตูเล็กน้อย
ตามหลัก ฮวงจุ้ย 5 ธาตุ (Five Elements Theory) ธาตุไฟ (เตา) และธาตุน้ำ (อ่างล้างจาน, ตู้เย็น, ก๊อกน้ำ) เป็นธาตุที่พิฆาตและทำลายล้างซึ่งกันและกัน ดังนั้น:
ห้ามวางเตาไฟติดกับอ่างล้างจาน/ตู้เย็น: ไม่ควรวางอุปกรณ์เหล่านี้ติดกันโดยตรง ควรมีพื้นที่ทำงาน (เคาน์เตอร์) หรือวัตถุที่เป็น ธาตุไม้ (เช่น ตู้ไม้) มาคั่นกลางอย่างน้อย 1 เมตร
ห้ามวางเตาไฟตรงข้ามกับอ่างล้างจาน/ตู้เย็น: การวางตรงข้ามกันทำให้เกิดการปะทะกันอย่างรุนแรง (Water vs. Fire clash) มีผลทำให้สมาชิกในบ้านขี้หงุดหงิดง่าย, เกิดการโต้แย้ง, และส่งผลเสียต่อสุขภาพ โดยเฉพาะโรคในช่องท้อง
นอกเหนือจากการจัดวางเตาไฟและตำแหน่งห้องครัวแล้ว องค์ประกอบอื่น ๆ ในห้องครัวยังมีความสำคัญในการรักษาสมดุลของ พลังงานชี่
ห้องครัวที่สะอาดเป็นระเบียบและปราศจากความยุ่งเหยิงถือเป็นหลัก ฮวงจุ้ย ที่สำคัญที่สุด เพราะความสกปรกหรือของเสียที่สะสมจะทำให้ พลังงานชี่ หยุดนิ่งและเป็นพิษ (Sha Qi) การปล่อยให้ห้องครัวรกรุงรังยุ่งเหยิงเชื่อว่าจะส่งผลให้เงินทองติดขัดและสุขภาพย่ำแย่ลง
ห้องครัวต้องมีแสงสว่างจากธรรมชาติอย่างเพียงพอ (แสงสว่างดีถือเป็นพลังงานหยางที่ดี) และมีการระบายอากาศที่ดี เพื่อให้กลิ่น ควัน และพลังงานที่ไม่ดีสามารถถ่ายเทออกไปได้สะดวก
การเลือกสีตามหลัก ฮวงจุ้ย ในห้องครัวควรมุ่งเน้นไปที่การสร้างสมดุลและส่งเสริมธาตุไฟ
สีที่แนะนำ: สีโทนสว่างและสบายตา เช่น สีขาว, สีครีม, สีเหลืองอ่อน (ธาตุดิน ซึ่งเป็นธาตุที่เกิดจากธาตุไฟ) จะช่วยสร้างความรู้สึกโปร่งโล่งและอุดมสมบูรณ์
สีที่ควรระวัง: หลีกเลี่ยงสีโทนเข้มหรือสีที่สื่อถึงธาตุน้ำมากเกินไป เช่น สีดำหรือสีน้ำเงินเข้ม เพราะจะไปลดทอนพลังของธาตุไฟ
พืช: การวางกระถางต้นไม้เล็ก ๆ (ธาตุไม้) ในห้องครัวจะช่วยทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการเชื่อมธาตุน้ำและธาตุไฟเข้าด้วยกัน (น้ำให้กำเนิดไม้, ไม้ให้กำเนิดไฟ) ช่วยลดความขัดแย้งของสองธาตุที่อยู่ใกล้กันได้
ผลไม้บนโต๊ะอาหาร: ควรวางผลไม้สด เช่น ส้ม, แอปเปิ้ล, หรือลูกแพร์ บนโต๊ะอาหาร เชื่อว่าจะช่วยเสริมเรื่องความมั่งคั่ง, ความอุดมสมบูรณ์, และสุขภาพที่แข็งแรง
ในบางตำรา ฮวงจุ้ย อนุญาตให้แขวนกระจกเพื่อสะท้อนภาพเตาไฟได้ (ทำให้ดูเหมือนมีเตาสองเตา) ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยเพิ่มความมั่งคั่งเป็นสองเท่า แต่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ ห้าม ให้กระจกสะท้อนก๊อกน้ำ หรือสะท้อนภาพตนเองขณะทำอาหาร เพราะอาจทำให้เกิดความกังวลและอุบัติเหตุได้
การจัด ฮวงจุ้ย ครัวไฟที่ดีคือการประยุกต์ใช้ภูมิปัญญาโบราณเข้ากับความสะดวกสบายและความปลอดภัยในยุคปัจจุบัน หัวใจสำคัญคือการสร้างสภาพแวดล้อมที่ สะอาด, สว่าง, อากาศถ่ายเทดี, และเกิดสมดุลของธาตุไฟและธาตุน้ำ
เมื่อห้องครัวได้รับการจัดวางอย่างถูกต้องตามหลัก ฮวงจุ้ย เตาไฟจะสามารถแผ่พลังงานแห่งความร้อนและความอุดมสมบูรณ์ได้อย่างเต็มที่ ห้องครัวก็จะกลายเป็นแหล่งกำเนิด พลังงานชี่ ที่ส่งเสริมสุขภาพที่แข็งแรง, ความสัมพันธ์ที่อบอุ่น, และกระแสเงินทองที่ไหลเวียนไม่ขาดสาย นำมาซึ่งความมั่งคั่งและความผาสุกที่ยั่งยืนให้แก่ครอบครัว
ฮวงจุ้ยซินแสศาสตร์อี้จิง